รุ่งเช้าวันหนึ่งในฤดูเหมันต์ ณ เมืองจ้าวซิง ชายแปลกหน้าวัยกลางคนแบกห่อผ้าผลักประตูเดินเข้าโรงจำนำบุรุษแดง เมื่อถึงหน้าเคาน์เตอร์
“เสี่ยวเอ้อ ข้าขอจำนำหยกดอกโบตั๋นชิ้นนี้”
ชายแปลกหน้าพูดพร้อมแกะห่อผ้าเผยให้เห็นหยกเขียวขจีรูปทรงดอกโบตั๋นอันงดงาม เสี่ยวเอ้อพิจารณาแล้ว เห็นว่างดงามสมดังที่ชายแปลกหน้าพูด จึงถามว่า
“ท่านต้องการเงินเท่าไหร่”
ชายแปลกหน้าขอจำนำไว้เงินหนึ่งพันตำลึง
เสี่ยวเอ้อส่ายหน้าบอกว่า “เถ้าแก่ไม่อยู่ไปต่างเมืองหลายวัน เงินมากมายขนาดนั้นข้าต้ดสินใจเองไม่ได้หรอก”
ชายแปลกหน้ากล่าวว่า “งั้นไม่เป็นไร โรงจำนำมังกรดำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเสนอให้ข้า เงินเก้าร้อยตำลึง แต่ข้าจำเป็นต้องใช้เงินหนึ่งพันตำลึง ไม่อย่างนั้นข้าไม่เอามาจำนำหรอก นี่มันสมบัติปู่ทวดข้า ที่ได้รับพระราชทานจากองค์ฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่น”
เสี่ยวเอ้อนั่งครุ่นคิดนี่มันโอกาสทองชัดๆ ที่ข้าจะสร้างความดีความชอบ คราวนี้ละเถ้าแก่อาจตบรางวัลให้ถึงกับนับข้าเป็นญาติเลยนะนี่
…..
เวลาผ่านไป เมื่อเถ้าแก่กลับมาถึง ได้ตรวจหยกโบตั๋นชิ้นนั้นอย่างละเอียด เขายืนยันว่าเป็นของที่เลียนแบบขึ้น ทว่าทำได้ค่อนข้างแนบเนียน ความผิดครั้งนี้เสี่ยวเอ้อต้องรับผิดชอบทั้งต้นทั้งดอก เสี่ยวเอ้อแทบล้มทั้งยืน จะมีปัญญาที่ไหน ทั้งชีวิตก็ชดใช้ไม่หมด!
เสี่ยวเอ้อนึกถึงเพื่อนคนหนึ่งที่มีนามว่าซูเหวินจาง เป็นเพื่อนที่มีสมองปราดเปรื่อง จึงรีบรุดไปหา เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ซูเหวินจางยิ้มที่มุมปากวาดแผนแก้ปัญหาให้ฟัง...
กาลเวลาผ่านไปสามวัน เถ้าแก่โรงจำนำบุรุษแดงได้ส่งบัตรเชิญไปยังเพื่อนฝูงและผู้มีชื่อเสียงในเมืองให้มาร่วมงานเลี้ยงเพื่อชมหยกดอกโบตั๋นสมัยราชวงศ์ฮั่น เมื่องานเลี้ยงดำเนินไปได้ระยะหนึ่ง เถ้าแก่โรงจำนำได้เดินออกมาจากห้องด้านใน สองมือประคองหยกดอกโบตั๋นพร้อมทั้งร้องตะโกนว่า “ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ขอได้ชื่นชมเป็นบุญตาร่วมกับข้าเถิด”
ระหว่างก้าวเดินไปยังกลางห้องจัดเลี้ยง เถ้าแก่บังเอิญเดินสะดุดขา หยกที่ประคองไว้หลุดจากมือตกลงบนพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ เถ้าแก่หน้าถอดสีทรุดตัวลงบนพื้น บรรดาคนรับใช้รีบวิ่งเข้าไปประคองเถ้าแก่เข้าห้องด้านใน
ข่าวร้ายชิ้นนี้แพร่สะพัดอย่างรวดเร็วในวันรุ่งขึ้น เพียงไม่กี่วันผ่านไป ชายแปลกหน้าคนเดิมได้ปรากฏตัวขึ้นที่โรงจำนำบุรุษแดง นำเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยและตั๋วจำนำวางบนเคาน์เตอร์ เมื่อเสี่ยวเอ้อเห็น ก็มิได้ปริปากใดๆ ก้มหน้านับเงินและดอกเบี้ยแล้วเดินเข้าไปด้านใน จากนั้นก็ประคองหยกดอกโบตั๋นออกมาส่งคืนให้
ชายแปลกหน้าคนนั้นมีท่าทีมึนงงและแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อพินิจพิจารณาแล้วว่าเป็นหยกที่ตนนำมาจำนำจริง เขาจึงจำต้องนำมันกลับไปด้วยสีหน้าผิดหวัง
“ความจริงแล้ว เป็นการซ้อนแผน หยกดอกโบตั๋นชิ้นที่หล่นพื้นแตกนั้น เป็นหยกที่ถูกทำเลียนแบบจากหยกปลอมของชายแปลกหน้าที่นำมาจำนำนั่นเอง”
เรื่องเล่าจากฉางเจียง - ตอนปลอมซ้อนปลอม